เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ในอดีตกาลเป็นสถานที่บำบัดรักษาโรค จัดตั้งขึ้นโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1ที่แพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่ที่นี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งข้างหลังปี ค.ศ 1334 ก็เลยปลอดคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นแอ่งน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันนี้ตั้งอยู่ในรีสอร์ทขว้างมุกค้างเล สถานที่สำคัญอื่นๆอย่างเช่น พิพิธภัณฑสถานขว้างมุกค้างเล โรงอาบน้ำโรมันซากโบสถ์ยุค ไบแซนไทน์ และก็ ฐานวิหารอะพอลโล โรงมหรสพโรมัน ฯลฯ

อัฟโฟรดีซิอัส (Aphrodisias) หรือ เกย์เร (Geyre) ความเป็นมาของเมืองอัฟโฟรดีซิอัส ย้อนไปตั้งแต่ 2,000 ปีกลายคริสตกาล ในตอนแรกของสมัยโลหะ แต่ว่าเมืองเริ่มสร้างเมื่อตอน 100 ปีกลายคริสตกาล เพื่ออุทิศให้วีนัส แล้วก็ชื่อของเมืองได้มาจากอโพรได (Aphrodite) หรือ วีนัส (venus) สาวงามที่ความสวยสดงดงามและก็ความบริบูรณ์

บอตตีเชลล วาดรูปวีนัสหรืออะโพรไดต์จากมหากาพย์ที่กล่าวขวัญกันว่า คุณเกิดมาจากฟองคลื่นของทะเล (Aphros มาจากภาษากรีก เป็น ฟองคลื่น) ภาพหญิงสาวเปลือยยืนบนฝาหอย เรือนผมทองลอยละล่องสยายไปกับสายลม โดยมีเซไฟร์ (Zephyr) เทวดาที่สายลมพัดพาคุณไปยังเกาะไซปรัสก่อนพาขึ้นไปบนโอลิมปัส (Olympus)

เรื่องการเลืออะโฟรไดต์เป็นสาวงามประจำเมืองนั้น นักโบราณคดีคาดการณ์ว่า มาจากขนบธรรมเนียมบูชาทวยเทพเทวดาเพื่อขอร้องความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านทำการเกษตรเพื่อผลิตผลเจริญงอกงาม รวมทั้งด้านเกษตรกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยงออกลูกได้มาก

เมื่ออัฟโฟรดีซิอัสเป็นของไบแชนไทน์ วิหารวีนัสได้ถูกกลายเป็นโบสถ์คริสต์ ต้นศตวรรษที่ 19 นักโบราณคดีชาวอิตาลีรวมทั้งประเทศฝรั่งเศสเข้ามาทำตรวจสอบ รวมทั้งมีการตรวจสอบอีกทีวันหลังกำเนิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1956 โดยอเมริกาและก็ประเทศตุรกีเอง ทำให้ศึกษาค้นพบโบราณสถานจำนวนมากตามที่มองเห็นในตอนนี้

โบราณสถานสร้างอย่างมีศิลป์ ที่ไม่น่าพลาดดูเป็น โรงแสดงละครโบราณยุคเฮเลนนิสติก วิหารของสาวงามวีนัส ผู้เป็นนางฟ้าประจำเมือง สนามแข่งม้าอายุราว 2,000 ปี ที่จุผู้ชมได้มากถึง 30,000 คน และก็โรงอาบน้ำฮาเดรียน (Baths of Hadrian) ในสมัยโรมันเมืองนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่เรียนฝึกหัดสอบการแกะสลัก

การที่อัฟโฟรดีซิอัสมีสถานที่เรียนฝึกการสอนการแกะสลักส่อให้เห็นถึงความเจริญที่งานศิลปะของตรงนี้ ช่วงเวลาเดียวกันก็ระบุให้มองเห็นถึงการเลือกเมืองที่มีวัตถุดิบบริบูรณ์ เพราะว่าไม่ห่างจากเมืองเท่าไรนัก มีแหล่งหินเนื้ออ่อนดีที่มีคุณลักษณะเหมาะมาก สำหรับเพื่อการเอามาสลัก ทั้งสามารถขัดผิวเนื้อหินให้มีความมันลื่นได้ง่ายอีกด้วย ก็เลยไม่น่าฉงนใจที่เมืองเมืองนี้จะมีการส่งออกงานประติมากรรมเป็นผลิตภัณฑ์ไปทั่วภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นกรุงโรมหรือเมืองบริวารต่างๆตลอดจนเมืองทางทางเหนือของทวีปแอฟริกาอย่างเมืองเลปทิสแมกที่นา ฯลฯ

ไม่ใช่เพียงแค่ผลงานทางด้านศิลป์เพียงแค่นั้นที่สร้างชื่อให้แก่เมืองเมืองนี้ แต่ว่าศิลปวิทยาการในสาขาอื่นๆก็รุ่งโรจน์อยู่ในเมืองอัฟโฟรดีซิอัสเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านวรรณคดี ปรัชญา รวมทั้งการแพทย์ เนื่องจากมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า แพทย์มีชื่อสมัยปลายคริสต์ศตวรรษ ที่ 1 อย่างซีโนเครดีส (Xenocrates) ซึ่งเขียนหนังสือเรียนด้านการแพทย์หลายต่อหลายเล่ม วางแนวแนวคิดทางด้านการแพทย์เอาไว้หลายแนวคิดได้มาเปิดการเล่าเรียนการสอนแพทยศาสตร์ขึ้นตรงนี้ด้วย

อัฟโฟรดีซิอัส เป็นที่ตั้งอยู่บนจุดตัดของเส้นทางพาณิชย์ในอดีตกาล ไม่ว่าจะมีลักษณะเป็นเส้นทางจากเหนือสู่ใต้ หรือจากทิศตะวันออกสู่ตะวันตก เป็นจุดเชื่อมอาณาจักรโบราณถึง 3 อาณาจักรร่วมกันเป็น อาณาจักรค้างเรีย (Caria) ที่มีชื่อในฐานะเป็นดินแดนของนักสู้รับจ้าง อาณาจักรลีเดีย (Lydia) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกแรกที่รู้จักสร้างเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้แลกผลิตภัณฑ์ และก็อาณาจักรฟรีเจีย (Phrygia) ที่มีอิทธิพล

การค้าขายมักก่อให้เกิดความมั่งมี รวมทั้งความมั่งมีก็ก่อให้เกิดศิลปวิทยาการ เวลาเดียวกัน ความร่ำรวยก็มักนำเข้ามาซึ่งภัยการสู้รบด้วยเช่นเดียวกัน นั่นนับว่า ผู้คนในเมืองอัฟโฟรดีซิอัส จะต้องหาฐานอำนาจมาช่วยหนุนเสริมความมั่นคงและยั่งยืนให้ดำรงอยู่ อย่างต่ำก็ในฐานะเมืองที่ดำรงความเป็นกลางสิ่งนี้เองที่ทำให้เมืองเมืองนี้เลือกเข้าข้างโรมันที่มีอำนาจทางด้านการทหารที่สุดในสมัยนั้น เมื่อครั้งโรมันทำศึกสงครามกับเมืองปอนเหม็นตุส (Pontus) ของกษัตริย์ไม่ทริตาติเตียนสที่ 6 (Mithridates) ที่อาณาจักรค้างเรีย เมื่อ 85 ปีกลายคริสตกาล ซึ่งเดี๋ยวนี้ เป็นดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี

ภายใต้การป้องกันของโรมันที่จัดว่าอัฟโฟรดีซิอัสเป็นผู้ช่วยเหลือที่ภาคใต้ เมื่อคราวถูกจู่โจมจากพวกลาเบียนนุส (Labionus) ในตอนปีที่ 40 ก่อนคริสตกาล จักรพัตราธิราชออกุสตุๆส ซีซาร์ ทรงส่งกำลังลงมาช่วยกระทั่งรอดพ้นภัยการรบ และก็ไม่ใช่เพียงเท่านี้ แต่ว่าออกุสตุๆส ซีซาร์ ยังทรงแต่งตั้งเมืองเมืองนี้ให้เป็นเมืองอิสระภายใต้การปกป้องคุ้มครองของโรมัน จนถึงถือว่าเป็นสมัยนั้น อัฟโฟรดีซิอัส เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยแล้วก็มั่นคงสูงสุดในดินแดนแถบนี้ เป็นเมืองที่ผู้คนต้องการจะเข้ามาตั้งหลักแหล่งรวมทั้งกลุ่มของผู้คนย้ายถิ่นเข้ามาสูงที่สุดเป็น ชนชั้นนักปราชญ์ นักคิดค้น ผู้รู้ หรือแม้กระทั้งนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังในสมัยนั้น

การที่อัฟโฟรดีซิอัส เป็นแหล่งรวมนักคิดค้นเกือบทุกสาขาปรัชญารวมทั้งผู้ทรงความรู้ ทำให้เมืองมีภาวะไม่ได้แตกต่างจากเมืองมหาวิทยาลัย ที่ผู้หิววิชาการกิ้งก้านต่างๆมากมายก่ายกองมุ่งเดินทางเข้ามาเล่าเรียนกล่าวโทษรู้กัน รวมทั้งศูนย์กลางที่วิชาความรู้ทั้งหมดทั้งสิ้นก็คือ มหาวิหารนางงามอะโฟรไดต์ ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลือเป็นตัวเป็นตนให้มองเห็นสูงที่สุดในขณะนี้

ที่มา : ทัวร์ตุรกี