ก่อนไปทัวร์เวียดนาม มีอะไรบ้างที่คุณควรรู้เอาไว้ก่อนไป

เวียดนามเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าดึงดูดและก็น่าท่องเที่ยวมานะครับ คนประเทศไทยเองก็นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวที่เวียดนามเยอะมากๆ ก่อนที่จะพวกเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวเวียดนาม ก็เสมือนพวกเราท่องเที่ยวประเทศอื่นๆนั่นแหละครับผม การจัดเตรียม ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ข้อมูลการเดินทางไว้ก่อนนับได้ว่าเป็นเรื่องดีครับผม

เวียดนาม (Vietnam) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Socialist Republic of Vietnam) ครับผม เวียดนามเป็นประเทศในเอเซียอาคเนย์ ที่มีอณาเขตชิดกับเมืองจีน ทางทิศเหนือ ประเทศลาว และก็ราชอาณาจักรกัมพูชา ทางทิศตะวันตก แล้วก็อ่าวตังเกี๋ย สมุทรจีนใต้ ทางทิศตะวันออกนะครับ

สิ่งที่ทำให้เกิดชื่อประเทศเวียดนาม คำว่า “เวียด” เป็นมาจากภาษาจีนครับผม แสดงว่า ไกลออกไกล หรือ เดินทางผ่านไป

คำว่า “เวียด” คือ ประเทศหนึ่งที่อยู่ไกลห่างจากจีนรวมทั้งฝ่าฟันขวากหนามต่างๆส่วน “นาม” หมายความว่า ทิศใต้ ด้วยเหตุนั้นชื่อเวียดนามชื่อว่า ดินแดนทางตอนใต้ของชาวเวียด หรือ ดินแดนที่ชาวเวียดนามอาศัยอยู่

# เวลา
เวลาประเทศเวียดนามพอๆกับเวลาเมืองไทย ลาว เขมร ครับผม มีเวลาเร็วกว่าเวลามาตราฐานที่กรีนนิช 7 ชั่วโมง พระอาทิตย์ตกเร็วในช่วงฤดูหนาวราว 17.30 น. และก็ ตกช้าในช่วงฤดูร้อนราว 19.30-20.00 น.

# สกุลเงินของเวียดนาม
ด่อง (อังกฤษ:Dong,เวียดนาม đồng) เป็น หน่วยเงินของเวียดนามที่ใช้ในประเทศเวียดนาม อัตราแลกเปลี่ยนราว 400-500 ด่องต่อบาท หรือ ราวๆ 16,000 ด่องต่อดอลลาร์สหรัฐนะครับ ต้นแบบที่ใช้ มีอีกทั้งเหรียญรวมทั้ง แบงค์ ของเวียดนามโดยแพงดังต่อไปนี้

เหรียญ แพง 200 ด่อง 500 ด่อง 1,000 ด่อง 2,000 ด่อง แล้วก็ 5,000 ด่อง แต่ว่าเหรียญไม่ค่อยได้ใช้กันแล้ว เอามาก็ไร้คนใช้ จ่ายก็ไร้คนรับนัก

แบงค์ ราคาแพง 1,000 ด่อง 2,000 ด่อง 5,000 ด่อง 10,000 ด่อง 20,000 ด่อง 50,000 ด่อง 100,000 ด่อง 200,000 ด่อง รวมทั้ง 500,000 ด่อง แบ้งเวียดนามใหญ่สุดเป็น 500,000 ดอง หรือ 1,000 บาท นับว่าเป็นแบ๊งค์ใหญ่ขอรับ เอาไปจ่ายในตลาดแม่ค้ามองหน้า ด้วยเหตุนี้ต้องมีตังย่อยประจำตัวด้วย พวกแบ๊งค์เล็กๆ100,000 กำลังพอดี

ถึงแม้รัฐบาลจะเกื้อหนุนให้นักเดินทางจำเป็นต้องใช้เงินด่อง แต่ว่า สถานที่เที่ยวทั่วๆไป อพาร์เม้นท์เวียดนาม ห้องอาหารเวียดนาม ร้านขายของของที่ระลึก ก็ยังคงรับเงิน ยูเอส พวกเราสามารถเปลี่ยนรายได้ที่ ท่าอากาศยานเวียดนาม หรือ แบงค์ รีสอร์ท รวมทั้ง ร้านค้าที่ได้รับอนุญาตให้แลกเงิน ร้านค้ากลุ่มนี้จะเขียนอักษรสีทองคำ ว่า “Hieu Vang” หรือ “Hieu Kim Hoan”

# ข้อควรระวังการใช้เงินเวียดนาม
– การใช้แบ๊งค์ 200,000 ดอง ระวังจะสลับกับ 50,000 ดอง สีคล้ายคลึงกัน
– การใช้แบ๊งค์ 100,000 ดอง ระวังจะสลับกับ 10,000 ดอง สีคล้ายคลึงกัน
– การใช้แบ๊งค์ 50,000 ดอง ระวังจะสลับกับ 200,000 ดอง สีคล้ายคลึงกัน
– แผนจ่ายใบใหญ่ให้เขาทอดโดยการทำเป็นเขาดวงใจทราบราคาไม่ค่อยเห็นผล เขาจะตีราคาพวกเราได้ตามอยากได้ จำเป็นต้องถามราคาก่อนทุกหน
ซักถามราคา ภาษาเวียดนามเป็น “บาวเยี่ยวเตี่ยน” คำว่าเตี่ยนหมายความว่าเงินนะครับ

# การแลกเช็คเดินทาง
แลกเปลี่ยนได้เฉพาะที่ Vietcombank ซึ่งจะมีสาขาอยู่เฉพาะในเมืองใหญ่ๆแค่นั้น

# การใช้บัตรเครดิต
ไม่ค่อยสบายและก็ใช้ได้เฉพาะบัตรเครดิตหลัก ร้านในเวียดนามโดยมากไม่รับบัตรเครดิต ถ้าเกิดใช้บัตรจำเป็นต้องเสียค่า
เวียดนามเอาจริงเอาจังสำหรับเพื่อการนำเงินเข้าประเทศมากมาย ผู้เดินทางที่มีเงินมากยิ่งกว่า 7,000 ยูเอสดอลลาร์ จำเป็นที่จะต้องแจ้งแก่ข้าราชการในช่วงเวลาที่เดินทางเข้าเวียดนาม

# ภาษา
ในส่วนของภาษา โดยธรรมดา ชาวเวียดนามใช้ภาษาเวียดนามกันในชีวิตประจำวันนะครับ แล้วก็ใช้ภาษาอังกฤษ ประเทศฝรั่งเศส และก็ จีน สำหรับเพื่อการติดต่อและทำการสื่อสาร

# การใช้โทรศัพท์
รหัสโทรศัพท์ของประเทศเวียดนามเป็น +84 แม้ท่านปรารถนาโทรตรงระหว่างชาติเวียดนาม ให้ตัด 00 + รหัสประเทศ + รหัสเมือง + เบอร์โทร โดยท่านสามารถถามเพิ่มอีกจากทางบ้านพักในเวียดนามของท่านได้ขอรับ

# อาหารการกิน
กรุงฮานอยมีตลาดสดหลายที่ ที่สามารถหาซื้อเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักรวมทั้งผลไม้สดได้ทุกวี่ทุกวัน ในลักษณะใกล้เคียงกับตลาดสดในประเทศไทย มี Supermaket และก็”mini mart” อยู่หลายที่คล้ายกับที่จังหวัดกรุงเทพ ครับผม ที่สามารถหาซื้ออาหารกระป๋องแล้วก็สินค้าจากต่างแดน เครื่องปรุงของกินไทย จำนวนมากสามารถหาได้ในกรุงฮานอย หรือปรับใช้จากสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศอื่น (ประเทศสิงคโปร์ จีน ประเทศเกาหลี รวมทั้งประเทศญี่ปุ่น ) นะครับ

การบริโภคของกินรวมทั้งน้ำกินในเวียดนามนั้นต้องระวังครับผม ควรจะซื้อน้ำกินที่ใส่เป็นขวดหรือกรองน้ำแล้วต้มก่อนที่จะดื่ม การบริโภคของกินชนิดผักผลไม้จำต้องล้างให้สะอาดก่อนขอรับ

# การให้ทิป
การให้ทิปในต่างถิ่นนั้น นับว่าเป็นประเด็นหลัก รวมทั้งมรรยาทของนักเดินทางควรจะให้ทิปสำหรับผู้ที่ให้บริการท่านขอรับ อาทิเช่น คนขับ / ไกด์เขตแดน ที่รออำนวยความสะดวกให้แด่คุณระหว่างการเดินทาง นับว่าเป็นความมีน้ำใจนิดๆหน่อยๆขอรับ

# ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ฟิลม์แล้วก็กล้องที่เอาไว้สำหรับถ่ายรูป ควรจะเตรียมพร้อมไปให้พอเพียงนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิล์มถ่ายรูปเนื่องจากว่าที่ต่างชาติราคาจะสูงมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามสถานที่เที่ยวยิ่งแพง และก็ควรจะจัดแจงถ่านใส่กล้องที่เอาไว้สำหรับถ่ายภาพไปด้วยด้วยเหตุว่าอากาศเย็นถ่านจะสลายตัวเร็วนะครับ

# เทศกาลสำคัญ
เทศกาลเต็ด (Tet) : โดยธรรมดาแล้ว ชาวเวียดนามจะฉลองเทศกาลต่างๆขั้นต่ำ 3-7 วัน ต่อเนื่องกัน โดยมีเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญที่สุด เป็น “เต็ดเหวียนดาน” (Tet Nguyen Dan) หมายความว่าเทศกาลที่รุ่งสว่างแรกของปี ที่ราษฎรนิยมเรียกกันสั้นๆว่า เทศกาลเต็ด

เทศกาลกึ่งกลางฤดูใบไม้ร่วง : สำหรับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง นับตามจันทรคติตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ประชาชนจัดแข่งขัน “ของหวานบันจังหวัดตรังทู” หรือ ของหวานเปี๊ยะโก๋ญวน ทีมีรูปร่างกลม มีไส้ถั่วแล้วก็ไส้ผลไม้ พร้อมกับจัดขบวนเชิดมังกร เพื่อแสดงความนับถือต่อดวงจันทร์ ซึ่งในบางหมู่บ้านบางทีอาจประดับประดาประทีปพร้อมด้วยจัดงานร้องเพลงดนตรีพื้นบ้าน

ที่มา : ทัวร์เวียดนาม

ทัวร์เกาหลีที่พิพิธภัณฑ์สุดแปลก

ประเทศเกาหลีนั้นปรับปรุงด้านการท่องเที่ยวอยู่เสมอเวลาจริงๆจ้ะ มักมีอะไรแปลกใหม่ออกมาเรียกนักเดินทางอยู่ตลอด อย่างปัจจุบันเมื่อ 2-3 ปีกลาย ได้เปิดพิพิธภัณฑสถานหลอกตาสุดแปลกแม้กระนั้นแจ๋วถูกใจนักเดินทางสุดๆไปเลยจ้ะ ด้วยเหตุผลดังกล่าววันนี้จะมาเสนอแนะพิพิธภัณฑสถานน่าท่องเที่ยวประเทศเกาหลีให้ได้ทราบจะกัน

# พิพิธภัณฑ์ trick eye

เป็นพิพิธภัณฑสถานสิ่งลวงตา 3 มิติยอดนิยมอย่างมากสุด ทั้งยังจากคนประเทศเกาหลีเองรวมทั้งนักเดินทางคนต่างประเทศจ้ะ เพราะว่าในพิพืธภัณฑ์นั้นมีภาพหลอนต่างๆมากไม่น้อยเลยทีเดียวที่เหมือนจริงจนถึงน่าทึ่ง แล้วก็เป็นมุมให้เก็บภาพได้ทุกภาพด้วยจ้ะ ไม่สนเท่ห์ใจเลยที่ชาวโซเชี่ยลทั้งหลายแหล่ ต่างก็เดินทางไปที่ พิพิธภัณฑสถาน Trickeye เพื่อเก็บภาพกัน โดย Trickeye Museum นั้นตั้งอยู่ที่โซลจ้ะหาไม่ยากเลย

# พิพิธภัณฑ์ Alive

ขณะนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่พิพิธภัณฑสถาน 3 มิติแล้ว แต่ว่า Alive นั้นเป็นพิพิธภัณฑสถาน 4 มิติจ้ะ ตั้งอยู่ที่โซลเช่นเดียวกัน โดยหลักๆรวมทั้งจะมีภาพงานศิลปะแบบ 4 มิติให้นักเดินทางได้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจเลยจ้ะ ซึ่งแต่ละภาพนั้นก็ยอดเยี่ยม วาดได้น่าทึ่งมากมายอย่างยิ่งจริงๆ Alive ก็เลยแปลงเป็นสถานที่เที่ยวประเทศเกาหลีอีกแห่งที่กำลังได้รับความนิยมมากมายๆในเวลานี้เลยจ้ะ นับว่าเป็นสถานที่เที่ยวประเทศเกาหลีที่แปลกแปลก ถ้าหากผู้ใดกันแน่มีแพลุกลนที่จะท่องเที่ยวประเทศเกาหลีหล่ะก็ จะต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยียนพิพิธภัณฑสถานศิลป์ภาพ 3 มิติ เพื่อเก็บภาพงามๆมาอวดเพื่อนฝูงๆกันนะคะ นอกเหนือจากการที่จะได้ภาพงามๆแล้วยังได้เรื่องทราบอีกด้วยจ้ะ ค่าเข้าใช้บริการนั้นก็ไม่แพงจ้ะ โดยจะเปิดให้บริการทุกเมื่อเชื่อวันด้วยล่ะ

ที่มา : ทัวร์เกาหลี

มัณฑะเลย์ฮิลล์ ที่เที่ยวยอดนิยามในการทัวร์พม่า

มัณฑะเลย์ฮิลล์ : คำว่า “มัณฑะเลย์” บ้าเสียงมาจากคำว่า “มันมองลา” หรือ “มันดาลา” ซึ่งก็คือวงล้อที่พลังอำนาจ หรือเขตอันศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งยังมั่นใจว่าสมเด็จพระพระพุทธเจ้าทรงเคยเสด็จมาโปรดสัตว์ที่เทือกเขาที่นี้ พร้อมกับมีพุทธพยากรณ์ว่าจะเป็นเมืองที่เจริญด้วยศาสนาพุทธ อันเป็นปัจจัยให้พระเจ้าไม่นป่าทรงย้ายราชบุรีมาอยู่ใต้ร่มเงาเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ที่นี้
– มัณฑะเลย์ฮิลล์ : ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์ สูง 236 เมตร ทางเข้าขึ้นมารูปปั้นราชสีห์ขนาดใหญ่สองตัว กลางทางมีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาให้สักระบูชาเป็นช่วงๆถ้าว่าท่านไม่ต้องการเดินขึ้นก็สามารถนั่งสองแถวขึ้นบนยอดมัณฑะเลย์ได้เลย (ท่ารถยนต์อยู่ตีนเขาทางขึ้น) โดยไม่ต้องเดินขึ้นบันได 7,292 ขั้น แต่ว่าก็จะไม่ผ่านจุดดูอันดับหนึ่งแล้วก็จุดดูลำดับที่สอง นักเดินทางบางบุคคลก็เลยใช้แนวทางขึ้นรถไปจนกระทั่งจุดสำหรับชมวิวบนยอดดอย แล้วเดินทางกลับลงบันไดก็ได้
– จุดแรก : วิหารใส่พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดเจอที่ดินแดนคันลำธารราษฎร์ ในประเทศประเทศอินเดีย มีอักษรจารึกว่าเป็นของพระผู้เป็นเจ้ากนิษกะมหาราช ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์ในกษัตริย์ 8 ท่านของประเทศอินเดียที่ได้รับแบ่งพระบรมสารีริกธาตุภายหลังฌาปนกิจศพสมเด็จพระสัมมาพระพุทธที่เมืองกุสิทุ่งนารา แม้กระนั้นคราวหลังไม่สำคัญต่อชาวอิสลามที่ดูแลดินแดนคันธาราราษฎร์ รัฐบาลอังกฤษในฐานะเจ้าอาณานิคมที่ดูแลประเทศอินเดียก็เลยมอบให้พุทธสมาคมที่พม่าในปี พุทธศักราช 2451 ถัดมามีฤาษีตนหนึ่งชื่อ “อูความอดกลั้น” ซึ่งชาวพม่าเคารพ สะสมเชื่อถือชาวพุทธสร้างวิหารใส่พระบรมสารีริกธาตุนี้ขึ้น แต่ว่าเนื่องมาจากได้รับเงินช่วยเหลือสูงถึง 700,000 รูปี ก็เลยนำเงินไปสร้างสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาอื่นๆเสริมเติมบนเทือกเขาที่นี้
– จุดลำดับที่สอง : เมื่อเดินขึ้นเกือบจะถึงยอดดอย มีพุทธรูป “ชเวยัผายลมอร์” ประทับยืนขนาดใหญ่ปิดทองทั้งคู่องค์ ทางพม่าเรียกว่า “ปางทำนาย” ตามตำนานเล่าว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงคาดเดาว่าดินแดนนี้ก้าวหน้าด้วยพุทธศาสนาและไม่ไกลกันยังมีรูปปั้นนางยักษ์ที่ตัดเต้านมมอบให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อบอกเจตนาว่าชายหน้าจะกำเนิดเป็นชายเพื่อบรรพชาในศาสนาพุทธ ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าไม่นป่าดงทรงมั่นใจว่ายักขีนีเป็นชาติก่อนของท่านนั่นเอง
– จุดลำดับที่สาม : บนยอดดอยมัณฑะเลย์ มีวิหาร “ซูโคนงพญา” ทรงเหมือนมณฑปครอบพระมหามัยมุนี ภายใต้วิหารติดตั้งพุทธรูปทั้งยังสี่ด้าน เป็น พระกกุสันโธ พระโกนาคมน์ พระกัสสป และก็พระสมที่วัวสูดดม รอบวิหารมีระเบียงสำหรับดูทิวภาพเมืองมัณฑะเลย์ แล้วก็สามารถแลเห็นแม่น้ำอิระวดี พระราชวัง วัดกุไม่มีคู่อว์

ที่มา : ทัวร์พม่า

ทัวร์ตุรกี ณ สถานที่ใกล้เมืองปามุคคาเล่

เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ในอดีตกาลเป็นสถานที่บำบัดรักษาโรค จัดตั้งขึ้นโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1ที่แพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่ที่นี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งข้างหลังปี ค.ศ 1334 ก็เลยปลอดคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นแอ่งน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันนี้ตั้งอยู่ในรีสอร์ทขว้างมุกค้างเล สถานที่สำคัญอื่นๆอย่างเช่น พิพิธภัณฑสถานขว้างมุกค้างเล โรงอาบน้ำโรมันซากโบสถ์ยุค ไบแซนไทน์ และก็ ฐานวิหารอะพอลโล โรงมหรสพโรมัน ฯลฯ

อัฟโฟรดีซิอัส (Aphrodisias) หรือ เกย์เร (Geyre) ความเป็นมาของเมืองอัฟโฟรดีซิอัส ย้อนไปตั้งแต่ 2,000 ปีกลายคริสตกาล ในตอนแรกของสมัยโลหะ แต่ว่าเมืองเริ่มสร้างเมื่อตอน 100 ปีกลายคริสตกาล เพื่ออุทิศให้วีนัส แล้วก็ชื่อของเมืองได้มาจากอโพรได (Aphrodite) หรือ วีนัส (venus) สาวงามที่ความสวยสดงดงามและก็ความบริบูรณ์

บอตตีเชลล วาดรูปวีนัสหรืออะโพรไดต์จากมหากาพย์ที่กล่าวขวัญกันว่า คุณเกิดมาจากฟองคลื่นของทะเล (Aphros มาจากภาษากรีก เป็น ฟองคลื่น) ภาพหญิงสาวเปลือยยืนบนฝาหอย เรือนผมทองลอยละล่องสยายไปกับสายลม โดยมีเซไฟร์ (Zephyr) เทวดาที่สายลมพัดพาคุณไปยังเกาะไซปรัสก่อนพาขึ้นไปบนโอลิมปัส (Olympus)

เรื่องการเลืออะโฟรไดต์เป็นสาวงามประจำเมืองนั้น นักโบราณคดีคาดการณ์ว่า มาจากขนบธรรมเนียมบูชาทวยเทพเทวดาเพื่อขอร้องความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านทำการเกษตรเพื่อผลิตผลเจริญงอกงาม รวมทั้งด้านเกษตรกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยงออกลูกได้มาก

เมื่ออัฟโฟรดีซิอัสเป็นของไบแชนไทน์ วิหารวีนัสได้ถูกกลายเป็นโบสถ์คริสต์ ต้นศตวรรษที่ 19 นักโบราณคดีชาวอิตาลีรวมทั้งประเทศฝรั่งเศสเข้ามาทำตรวจสอบ รวมทั้งมีการตรวจสอบอีกทีวันหลังกำเนิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1956 โดยอเมริกาและก็ประเทศตุรกีเอง ทำให้ศึกษาค้นพบโบราณสถานจำนวนมากตามที่มองเห็นในตอนนี้

โบราณสถานสร้างอย่างมีศิลป์ ที่ไม่น่าพลาดดูเป็น โรงแสดงละครโบราณยุคเฮเลนนิสติก วิหารของสาวงามวีนัส ผู้เป็นนางฟ้าประจำเมือง สนามแข่งม้าอายุราว 2,000 ปี ที่จุผู้ชมได้มากถึง 30,000 คน และก็โรงอาบน้ำฮาเดรียน (Baths of Hadrian) ในสมัยโรมันเมืองนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่เรียนฝึกหัดสอบการแกะสลัก

การที่อัฟโฟรดีซิอัสมีสถานที่เรียนฝึกการสอนการแกะสลักส่อให้เห็นถึงความเจริญที่งานศิลปะของตรงนี้ ช่วงเวลาเดียวกันก็ระบุให้มองเห็นถึงการเลือกเมืองที่มีวัตถุดิบบริบูรณ์ เพราะว่าไม่ห่างจากเมืองเท่าไรนัก มีแหล่งหินเนื้ออ่อนดีที่มีคุณลักษณะเหมาะมาก สำหรับเพื่อการเอามาสลัก ทั้งสามารถขัดผิวเนื้อหินให้มีความมันลื่นได้ง่ายอีกด้วย ก็เลยไม่น่าฉงนใจที่เมืองเมืองนี้จะมีการส่งออกงานประติมากรรมเป็นผลิตภัณฑ์ไปทั่วภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นกรุงโรมหรือเมืองบริวารต่างๆตลอดจนเมืองทางทางเหนือของทวีปแอฟริกาอย่างเมืองเลปทิสแมกที่นา ฯลฯ

ไม่ใช่เพียงแค่ผลงานทางด้านศิลป์เพียงแค่นั้นที่สร้างชื่อให้แก่เมืองเมืองนี้ แต่ว่าศิลปวิทยาการในสาขาอื่นๆก็รุ่งโรจน์อยู่ในเมืองอัฟโฟรดีซิอัสเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านวรรณคดี ปรัชญา รวมทั้งการแพทย์ เนื่องจากมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า แพทย์มีชื่อสมัยปลายคริสต์ศตวรรษ ที่ 1 อย่างซีโนเครดีส (Xenocrates) ซึ่งเขียนหนังสือเรียนด้านการแพทย์หลายต่อหลายเล่ม วางแนวแนวคิดทางด้านการแพทย์เอาไว้หลายแนวคิดได้มาเปิดการเล่าเรียนการสอนแพทยศาสตร์ขึ้นตรงนี้ด้วย

อัฟโฟรดีซิอัส เป็นที่ตั้งอยู่บนจุดตัดของเส้นทางพาณิชย์ในอดีตกาล ไม่ว่าจะมีลักษณะเป็นเส้นทางจากเหนือสู่ใต้ หรือจากทิศตะวันออกสู่ตะวันตก เป็นจุดเชื่อมอาณาจักรโบราณถึง 3 อาณาจักรร่วมกันเป็น อาณาจักรค้างเรีย (Caria) ที่มีชื่อในฐานะเป็นดินแดนของนักสู้รับจ้าง อาณาจักรลีเดีย (Lydia) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกแรกที่รู้จักสร้างเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้แลกผลิตภัณฑ์ และก็อาณาจักรฟรีเจีย (Phrygia) ที่มีอิทธิพล

การค้าขายมักก่อให้เกิดความมั่งมี รวมทั้งความมั่งมีก็ก่อให้เกิดศิลปวิทยาการ เวลาเดียวกัน ความร่ำรวยก็มักนำเข้ามาซึ่งภัยการสู้รบด้วยเช่นเดียวกัน นั่นนับว่า ผู้คนในเมืองอัฟโฟรดีซิอัส จะต้องหาฐานอำนาจมาช่วยหนุนเสริมความมั่นคงและยั่งยืนให้ดำรงอยู่ อย่างต่ำก็ในฐานะเมืองที่ดำรงความเป็นกลางสิ่งนี้เองที่ทำให้เมืองเมืองนี้เลือกเข้าข้างโรมันที่มีอำนาจทางด้านการทหารที่สุดในสมัยนั้น เมื่อครั้งโรมันทำศึกสงครามกับเมืองปอนเหม็นตุส (Pontus) ของกษัตริย์ไม่ทริตาติเตียนสที่ 6 (Mithridates) ที่อาณาจักรค้างเรีย เมื่อ 85 ปีกลายคริสตกาล ซึ่งเดี๋ยวนี้ เป็นดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี

ภายใต้การป้องกันของโรมันที่จัดว่าอัฟโฟรดีซิอัสเป็นผู้ช่วยเหลือที่ภาคใต้ เมื่อคราวถูกจู่โจมจากพวกลาเบียนนุส (Labionus) ในตอนปีที่ 40 ก่อนคริสตกาล จักรพัตราธิราชออกุสตุๆส ซีซาร์ ทรงส่งกำลังลงมาช่วยกระทั่งรอดพ้นภัยการรบ และก็ไม่ใช่เพียงเท่านี้ แต่ว่าออกุสตุๆส ซีซาร์ ยังทรงแต่งตั้งเมืองเมืองนี้ให้เป็นเมืองอิสระภายใต้การปกป้องคุ้มครองของโรมัน จนถึงถือว่าเป็นสมัยนั้น อัฟโฟรดีซิอัส เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยแล้วก็มั่นคงสูงสุดในดินแดนแถบนี้ เป็นเมืองที่ผู้คนต้องการจะเข้ามาตั้งหลักแหล่งรวมทั้งกลุ่มของผู้คนย้ายถิ่นเข้ามาสูงที่สุดเป็น ชนชั้นนักปราชญ์ นักคิดค้น ผู้รู้ หรือแม้กระทั้งนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังในสมัยนั้น

การที่อัฟโฟรดีซิอัส เป็นแหล่งรวมนักคิดค้นเกือบทุกสาขาปรัชญารวมทั้งผู้ทรงความรู้ ทำให้เมืองมีภาวะไม่ได้แตกต่างจากเมืองมหาวิทยาลัย ที่ผู้หิววิชาการกิ้งก้านต่างๆมากมายก่ายกองมุ่งเดินทางเข้ามาเล่าเรียนกล่าวโทษรู้กัน รวมทั้งศูนย์กลางที่วิชาความรู้ทั้งหมดทั้งสิ้นก็คือ มหาวิหารนางงามอะโฟรไดต์ ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลือเป็นตัวเป็นตนให้มองเห็นสูงที่สุดในขณะนี้

ที่มา : ทัวร์ตุรกี

เมนูจานหลักที่ไม่ควรพลาดในการทัวร์ยุโรป

นักเดินทางที่ต้องการสัมผัสถึงวัฒนธรรมที่จริงจริงของชาวตะวันตก ส่วนหนึ่งส่วนใดที่ทำเป็นก็คือการทดสอบกินอาหารแคว้นนั้นๆโดยของกินของคนยุโรปมีชื่อเสียงว่ามีความมากมายหลากหลายออกจะสูงรวมทั้งนาๆประการในแต่ละภูมิภาค ของกินอะไรบางอย่างมีชื่อเสียงแล้วก็เคยชินของคนทั้งโลก แต่ว่าอะไรบางอย่างก็ยังไม่มีชื่อเสียงมากมายซักเท่าไหร่ เนื้อหานี้จะแสดงให้เห็นว่าถ้าหากจำต้องเลือกทานอาหารจานหลักของประเทศนั้นได้เพียงแต่ “รายการอาหารเดียว” จะต้องรับประทานอะไรถึงจะเรียกว่า “ถึงประเทศนั้นแล้ว”

# Wiener Schnitzel, Austria

ไก่ชุบแป้งทอดทอดเนื้อนุ่มสูตรต้นตำหรับออสเตรียที่เสิร์ฟร้อนๆพร้อมมันบดซึ่งข้อเท็จจริงแล้วมักพบทางตรงกลางของยุโรปทุกประเทศ

# Moules-frites, Belgium

ของกินจานอร่อยของเบลเยียมที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า “Moules et frites” หอยแมลงภู่ปรุงสุกรับประทานคู่กับเฟรนช์ฟรายซึ่งนิยมไปทั่วยุโรปพื้นทวีปทวีป

# Shopska salad, Bulgaria

Starter ชั้นเยี่ยมที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า “Bulgarian salad” สลัดแบบเริ่มแรกเฉพาะในแถบแหลมบอลข่านที่มีมะเขือเทศ แตงร้าน หัวหอม พริกไทยปิ้ง ชีส Sirene รวมทั้งผักชีฝรั่ง

# Yota or Jota, Croatia

สตูว์เนื้อหมูหรือโคที่นำลงไปปรุงพร้อมด้วยถั่ว ผักกาดดอง มันฝรั่ง รวมทั้งเบคอน เป็นอาหารจานหลักในเขตตอนบนของสมุทรอเดรียติเตียนกโดยมีอีกชื่อว่า “Istrian stew”

# Halloumi and watermelon, Cyprus

ของหวานที่นิยมกินอย่างล้นหลามในตอนหน้าร้อนตามวิถีของชาวไซปรัสมีลักษณะเป็นชีสสูตรเฉพาะที่ทำมาจากนมแกะหรือนมแพะ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปปิ้ง กินพร้อมแตงโมและก็กาแฟดำร้อนๆ

# Frikadeller, Denmark

อาหารจานหลักของเดนมาร์กที่ได้รับอิทธิพลมาจากเยอรมัน ลักษณะเป็นเนื้อหมักทำเป็นก้อน และจากนั้นจึงนำไปปิ้งให้เป็นชิ้นแบนๆซึ่งได้รับการตั้งชื่อให้เป็น meat ball ในเวอร์ชั่นเดนมาร์ก

# Rosolje, Estonia

ของกินที่เสิร์ฟเป็น side dish ในดูเหมือนจะทุกร้านค้าในเอสโตเนียทำมาจากบีทรูทผสมกับมันฝรั่ง บางคราวสามารถเพิ่มเติมเนื้อปลา herring ลูกแอปเปิ้ล แล้วก็ไข่ต้ม ลงไปได้ด้วย

# Pot-au-feu, France

อาหารจานหลักที่นิยมทำกันในครอบครัวของชาวประเทศฝรั่งเศสที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “pot on the fire” มีลักษณะเป็นสตูว์เนื้อวัวที่กินกับผักหลากประเภท เน้นย้ำไปที่แครอท

# Sauerbraten, Germany

เนื้อหมักด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษที่ผสมจากน้ำสมสายยก เหล้าองุ่น น้ำ สมุนไพรรวมทั้งเครื่องเทศต่างๆตรงเวลากว่า 1 อาทิตย์ เพื่อได้เนื้อนุ่มรสออกเปรี้ยวสูตรเฉพาะของชาวเยอรมัน

# Moussaka, Greece

รายการอาหารจานหลักของชาวภาษากรีกที่ได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่สมัยออตโตมัน ลักษณะเป็นเงาฝรั่งผสมชีสใส่ไส้ด้วยเนื้อปรุงพิเศษรวมทั้งผักจำพวกต่างๆเน้นย้ำไปที่ศีรษะหอม

# Stobhach Gaelach, Republic of Ireland

Irish stew สตูว์ตามตำรับชาวไอริชที่นิยมทำมาจากเนื้อแกะหรือลูกแกะ เสิร์ฟกับมันฝรั่ง หัวหอม แล้วก็ผักชีฝรั่ง รวมทั้งที่จำเป็นเป็นกินคู่กับเบียร์สดไอริช

# Pizza, Italy

ของกินอิตาเลี่ยนมีชื่อเสียงที่คนประเทศไทยรู้จักดีอย่างยอดเยี่ยม พิซซ่ามีขายทั่วๆไปเกือบทุกถนนหนทางในอิตาลี และก็ถ้าเกิดต้องการรับทราบรสพิซซ่าสูตรเจ้าตำรับจำต้องไปที่เมืองเนเปิลส์ (Napoli) ซึ่งมีชื่อเสียงว่าฯลฯเกิดที่จริงจริง

# Cepelinai, Lithuania

เมนูหลักของประเทศลิทัวเนียที่มีอีกชื่อว่า “did?kukuliai” มีลักษณะเหมือนเกี๊ยวหรือที่เรียกว่า dumpling แป้งชั้นนอกทำมาจากมันฝรั่งผสมข้าว ยัดไส้ด้วยเนื้อสับ ชีส รวมทั้งเห็ด

# Judd mat Gaardebounen, Luxembourg

รายการอาหารตำรับชาววังของลักเซมเบอร์กที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Smoked Collar of Pork with Broad Beans” เนื้อคอหมูรมควัน นิยมทานร้อนๆกับถั่วต้มและก็มันฝรั่ง

# Fenkata, Malta

อาหารประจำชาติมอลต้าที่หารับประทานได้ทั่วๆไปมีลักษณะเป็นสตูว์ทำจากเนื้อกระต่าย นิยมกินเป็น 2 จานหลัก โดยจานแรกทานกับเส้นสปาเก็ตตี้ และก็จานที่ 2 ทานกับมันฝรั่ง

# Stroopwafel, Netherlands

ของหวานที่พลาดมิได้เมื่อมาถึงเนเธอร์แลนด์ วาฟเฟิลสูตรพิเศษเฉพาะชาวฮอลล์แลนด์ที่มีทั้งยังแบบแห้งรวมทั้งแบบสด สามารถหาทดลองได้ทั่วๆไปตามร้านค้าขายของหวานและก็ซุปเปอร์มาร์เก็ต

# Bigos, Poland

ของกินที่แรกเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มพรานล่าสัตว์ ลักษณะเป็นเนื้อสตูว์ยุ่ยเคล้ากับผักกาดดองฉบับชาวโปลิชซึ่งบางครั้งบางคราวบางทีอาจผสมมันฝรั่ง น้ำผึ้ง หรือเห็ด ลงไปได้ด้วย

# Bacalhau, Portugal

Bacalhau เป็นปลา Cod ที่ผ่านขั้นตอนรักษาอาหารด้วยการนำไปตากแห้งแล้วก็หมักด้วยเกลือซึ่งเป็นความคิดของชาวโปรเหม็นตุกีสที่ตกทอดกันมายาวนานหลายร้อยปี

# Sarmale, Romania

อาหารประจำชาติโรมาเนียที่นิยมทำในตอนเทศกาลฉลองต่างๆทำจากผักกาดดองที่ใส่ไส้ด้วยเนื้อแต่งรส โดยขนาดของแต่ละชิ้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของประเทศ ทางตะวันออกเฉียงเหนือจะมีขนาดชิ้นเล็กมากยิ่งกว่าส่วนอื่นๆของประเทศ

# Potica, Slovenia

ขนมของชาวสโลวีเนียนที่มาจากส่วนประกอบของแป้ง น้ำตาล ไข่ รวมทั้งเนย นวดจนกระทั่งถูกกัน และจากนั้นจึงนำไปม้วนใส่ไส้ด้วยวอลนัท รสหวานกำลังพอดี

# Paella, Spain

ของกินสแปนิชมีชื่อที่ชาวไทยหลายท่านชอบใจและก็รู้จักกันดีในชื่อ “ข้าวผัดประเทศสเปน” ซึ่งแต่งรสชาติด้วยเครื่องเทศแล้วก็อาหารทะเลหลากประเภท

# Sunday roast, United Kingdom

รายการอาหารเริ่มแรกของชาวสหราชอาณาจักรที่นิยมกินกันในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดของชนชั้นแรงงานในอดีตกาล ในจานมีเนื้อย่าง มันฝรั่งปิ้ง มันบด กินกับผักประเภทต่างๆที่ราดด้วยน้ำซอสเกรวี่

ที่มา : ทัวร์ยุโรป

ทัวร์ลาวที่ปากแบ่ง ไปดูวิธีชาวริมโขง

ผู้คนจำนวนมากบางทีอาจกำลังวิ่งตามหาสีสันของชีวิต ผ่านกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การทำงาน และก็ยังรวมทั้งการท่องเที่ยว วันนี้ ก็เลยขอสมัครใจพาคุณไปตามหาสีสันของชีวิตด้วยการเดินทางไปท่องเที่ยว “ตำบลอุดมไชย” (Oudomxai) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉเหนือของประเทศลาว ประเทศเพื่อนบ้านของพวกเรานี่เอง

โดยเป้าหมายที่พวกเราจะไปเยี่ยม นั้นเป็น “เมืองปากแบ่ง” (Pakbeng) เมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากเล็กๆที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ระหว่างเมืองห้วยทราย (Houay Xai) กับเมืองหลวงพระบาง รวมทั้งอยู่ห่างจากชายแดนไทย โดยประมาณ 40 กม. ปัจจุบันนี้ได้แปลงเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากของตำบลอุดมไชย ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย

เมืองปากแบ่ง เป็นเมืองที่ออกจะสงบเงียบ เหมาะกับนักเดินทางที่อยากได้หลบลี้ ความคนเยอะของคนเราในเมืองใหญ่ โดยกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในตอนเช้าๆก็อาจหนีไม่พ้นการออกไปเดินเที่ยวตรวจ เมืองหรือจะเลือกปั่นจักรยานดูทิวทัศน์วิวของเมืองปากแบ่งแล้วก็แม่น้ำโขง โดยยิ่งไปกว่านั้นในฤดูหนาวทะเลหมอกขอบโขงก็งดงามไม่แพ้ที่อื่นๆแม้กระนั้นถ้าเกิดมาฤดูร้อนบางทีอาจไม่มีช่องทางได้พบนะ

ต่อไป ไม่พลาดไปสัมผัสสีสันของตลาดรวมทั้งวัดด้านในเมือง ดูเหล่าบ้านเรือนที่โดยมากเป็นไม้ปลูกอยู่ตามป่าเขาที่ลาดลงสู่แม่น้ำโขง ใกล้ๆกับท่าเรือยังมีแหล่งรวมร้าน ร้านอาหาร ที่มีให้มองเห็นเยอะมากด้านในเมือง พร้อมกับสัมผัสความอบอุ่นของคนเราด้านในเมือง ที่อารมณ์เบิกบานทักกันอย่างกันเอง ไม่เว้นแม้กระทั้งจนกระทั่งนักเดินทางจากต่างแดน

ตอนนี้เมืองปากแบ่ง ได้แปลงเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากอีกหนึ่งเมืองที่น่าเฝ้าดู ถึงแม้ในบางครั้งเมืองเล็กๆที่นี้จะถูกมองดูเป็นเพียงแค่จุดแวะพักของเรือ รวมทั้งนักเที่ยวจากหลวงพระบาง โดยใช้เวลาล่องเรือขึ้นมาจากหลวงพระบาง 10 ชั่วโมง ถ้าเกิดล่องลงมาจากเมืองห้วยทราย ตำบลบ่อแก้ว จะใช้เวลาน้อยกว่า เมืองอยู่เขาในจุดที่แม่น้ำแบ่งไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง เป็นศูนย์กลางสำหรับในการเดินทางไปอุดมไชยและก็หลวงน้ำทา

ที่มา : ทัวร์ลาว

ตั๋วและพาสต่างๆ ในการทัวร์ญี่ปุ่นที่ฮอกไกโด

เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวฮอกไกโดและเมืองซัปโปโร ทางญี่ปุ่นได้มีการออกตั๋ว พาส ท่องเที่ยวและการเดินทางต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้กันโดยเฉพาะ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วดังนี้

# ตั๋วและพาสสำหรับเดินทางท่องเที่ยวของฮอกไกโด #

1. ตั๋ว JR Hokkaido Rail Pass

JR Hokkaido Rail Pass สามารถโดยสารรถไฟ JR (รวม limited express trains) และรถบัส JR ในภูมิภาคฮอกไกโดได้โดยไม่จำกัดครั้ง ตั๋วจำหน่ายแบบใช้งานติดต่อกัน 3 วัน 5 วัน 7 วัน และแบบยืดหยุ่น 4 วัน(ที่สามารถใช้วันไหนก็ได้ภายในระยะเวลา 10 วัน) เหมาะมากกับผู้ที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวเมืองต่างๆในฮอกไกโด นอกจากภายในเมืองซัปโปโร

– ตั๋ว 3 วัน แบบต่อเนื่อง ผู้ใหญ่ราคา 16,500 เยน เด็กราคา 8,250 เยน
– ตั๋ว 5 วัน แบบต่อเนื่อง ผู้ใหญ่ราคา 22,000 เยน เด็กราคา 11,000 เยน
– ตั๋ว 7 วัน แบบต่อเนื่อง ผู้ใหญ่ราคา 24,000 เยน เด็กราคา 12,000 เยน
– ตั๋ว 4 วัน แบบไม่ต่อเนื่อง (ใช้วันไหนก็ได้ภายในระยะเวลา 10 วัน) ผู้ใหญ่ราคา 22,000 เยน เด็กราคา 11,000 เยน

*** เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี โดยสารฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

2. JR East-South Hokkaido Rail Pass

บัตรที่ใช้เดินทางได้ทั่วทั้งภูมิภาคคันโตตั้งแต่โตเกียวไปจนถึงเกาะฮอกไกโดตอนใต้ สามารถใช้นั่งรถไฟสาย JR Hokkaido Lines และ JR East Lines ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถรถไฟได้ตั้งแต่สนามบินนาริตะ (Narita Airport), สนามบินฮาเนดะ Haneda Airport และสนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) ได้ด้วย ครอบคลุมเมืองสำคัญหลายแหล่ง เช่น Tokyo, Sapporo, Aomori, Sendai และเมืองอื่นๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางใหม่เพราะจะมีการเปิดใช้งานรถไฟชิงคันเซนเพื่อข้ามไปยังฮอกไกโด พาสนี้จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในภูมิภาคคันโต(ทั่วกรุงโตเกียว) และนั่งข้ามเกาะไปยังฮอกไกโด

JR East-South Hokkaido Rail Pass มีให้เลือกแบบเดียว เป็นแบบยืดหยุ่น สามารถเลือกเดินทางได้ 6 วัน ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องกัน(เลือกใช้ได้ 6 วัน จาก 14 วัน) ผู้ใหญ่ ราคา 26,000 เยน / เด็ก 13,000 เยน

3. JR Tohoku-South Hokkaido Rail Pass

– JR Tohoku-South Hokkaido Rail Pass เป็นพาสใหม่ล่าสุด ที่ใช้เดินทางจากได้จากตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด กับภูมิภาค Tohoku ที่มีเมืองดังเช่น เซนได
– JR Tohoku-South Hokkaido Rail Pass เป็นพาสใหม่ล่าสุด มีให้เลือกแบบเดียว เป็นแบบยืดหยุ่น สามารถเลือกเดินทางได้ 6 วัน ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องกัน(เลือกใช้ได้ 6 วัน จาก 14 วัน) ผู้ใหญ่ ราคา 19,000 เยน / เด็ก 9,500 เยน

นอกจากพาสเฉพาะฮอกไกโดแล้ว ยังสามารถใช้พาสรวม JR All Pass ซึ่งเป็นพาสรวมที่สามารถใช้ได้ทุกที่ทั่วญี่ปุ่น ใช้ได้ตั้งแต่ ฟูกุโอกะที่เกาะคิวชู จนถึง ซัปโปโร ที่เกาะฮอกไกโด เพราะปัจจุบันมีสายรถไฟความเร็วสูงชินคันเซน เชื่อมต่อทุกพื้นที่หลักๆญี่ปุ่นแล้ว (นอกจากเกาะเล็กๆ) พาสนี้จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวครั้งเดียวทั่วทั้งประเทศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้เลย มีให้เลือก 7 วัน/ 14 วัน และ 21 วัน แบบ 7 วัน ผู้ใหญ่ราคา 29,110 เยน / เด็ก 14,550 เยน

# ตั๋ว พาส ท่องเที่ยวและเดินทางของซัปโปโร #

ตั๋วรถไฟ สำหรับท่องเที่ยวและเดินทางในเมืองซัปโปโร จะแบ่งออกเป็น 3 แบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกกันตามสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองมากขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

# ตั๋วแบบใช้ครั้งเดียว

ตั๋วแบบใช้ครั้งเดียว ตั๋วชนิดนี้จะใช้สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งหากต้องการเดินทางต่อก็จะต้องซื้อตั๋วใหม่นั่นเอง ทั้งยังมีการกำหนดปลายทางที่แน่นอน กล่าวคือจองตั๋วไปลงที่ไหน ก็จะต้องลงที่สถานีนั้น โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ 200 เยน

# ตั๋วแบบเหมา 1 วัน ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

– ตั๋วแบบเหมา 1 วัน ตั๋วชนิดนี้จะใช้สำหรับการเดินทางใน 1 วัน อย่างไม่จำกัด กล่าวคือแค่ซื้อตั๋วเพียงครั้งเดียวก็สามารถเดินทางไปได้ทุกที่ตามเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน โดยมีตั๋วทั้งหมด 3 ประเภทดังนี้
– ประเภทที่ 1 = Subway 1-Day Card ใช้ได้กับรถไฟใต้ดินของซัปโปโรทั้ง 3 สาย ในราคา 830 เยน และใช้ได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น
– ประเภทที่ 2 = Donichika Ticket ใช้ได้กับรถไฟใต้ดินของซัปโปโรทั้ง 3 สาย ในราคา 520 เยน โดยจะใช้ได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดราชการและวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
– ประเภทที่ 3 = Sapporo-Otaru Welcome Pass ใช้ได้กับการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินทั้ง 3 สาย และรถไฟ JR ระหว่าง Sapporo กับ Otaru ในราคา 1,700 เยน

# ตั๋วแบบบัตรเติมเงิน

มีการใช้งานโดยเติมเงินเข้าไปในบัตร จากนั้นก็นำไปใช้โดยสารรถไฟหรือรถบัสได้จนกว่าเงินในบัตรจะหมด ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่จะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้ดีทีเดียว โดยบัตรเติมเงินเพื่อท่องเที่ยวและเดินทางในซัปโปโรประเภทนี้ ก็แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ

ประเภทที่ 1 = Kitaca มีราคาเริ่มต้นที่ 2,000 เยน โดยจะใช้ในการโดยสารรถไฟ JR รถรางซัปโปโร รถไฟใต้ดินซัปโปโรและรถบัสซัปโปโร แถมยังสามารถนำไปใช้ในเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นได้อีกด้วย

ประเภทที่ 2 = Sapica เป็นบัตรโดยสารแบบเติมเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีราคาเริ่มต้นที่ 2,000 เยน โดยจะใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน รถรางและรถบัส JR Hokkaido Bus, Jotetsu และ Hokkaido Chuo Bus แถมยังมีการสะสมคะแนน 10% ของการใช้งานแต่ละครั้ง เพื่อนำไปใช้เป็นค่าเดินทางในครั้งต่อไปได้อีกด้วย

เมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในฮอกไกโดและเมืองซัปโปโร อย่าพลาดที่จะซื้อ ตั๋ว พาส ท่องเที่ยวและเดินทางเด็ดขาด แล้วคุณจะได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างสนุกสุดคุ้ม พร้อมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างน่าพอใจแน่นอน

ที่มา : ทัวร์ญี่ปุ่น

5 ที่ทัวร์ไต้หวันแบบเน้นธรรมชาติ

ไต้หวันเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าท่องเที่ยวไม่แพ้ประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศเกาหลีเลยจ้ะ เนื่องจากว่าลือชื่อในหลายๆเรื่อง ทั้งยังของกิน แหล่งช้อปปิ้ง ที่เที่ยวได้รับความนิยมๆแล้วก็ที่สำคัญเป็น ท่องเที่ยวง่าย ไม่ต้องขอวีซ่า ค่ายังชีพก็ใกล้เคียงกับบ้านพวกเรา แถมยังมีที่เที่ยวธรรมชาติที่สมบูรณ์บริบูรณ์ให้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอดอีกด้วย คนไหนกันแน่กำลังเครียดกับงาน ต้องการออกท่องเที่ยวเพิ่มพลังให้ตนเอง หรือจะพาบิดามารดาท่องเที่ยวด้วยก็ได้ วันนี้พวกเราจะพาไปชี้แนะ 6 ที่เที่ยวธรรมชาติ ไต้หวัน งามประทับใจ พร้อมแนวทางเดินทาง ออกไปพบธรรมชาติบำบัดรักษากันเลยดีกว่า

1. อุทยานแห่งชาติเย่หลิว (Yehliu Geopark)

จบท้ายด้วย ที่เที่ยวธรรมชาติ ไต้หวัน ที่สะดุดตาและก็จะต้องไปให้ได้สักหนึ่งครั้ง ก็คือที่ อุทยานแห่งชาติเย่หลิว (Yehliu Geopark) ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือสุดของเมืองนิวไทเป ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เย่หลิวเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกก็คือ ทิวทัศน์ของหินปูนรูปร่างประหลาดตาอันมีต้นเหตุมาจากการกัดเซาะของน้ำทะเล กระแสลม น้ำฝน และก็การขับเคลื่อนของเปลือกโลกนับล้านๆปีนั่นเอง

แล้วก็เนื่องจากว่าอุทยานแห่งชาติเย่หลิว มีลักษณะเป็นแหลมยื่นเข้าไปในสมุทร บรรยากาศบริเวณสวนก็เลยมีชีวิตชีวาดีต่อใจมากๆอากาศก็เย็นสบาย เหมาะสมแก่การเดินเที่ยวถ่ายภาพรวมทั้งดูทิวภาพได้อย่างเต็มเปี่ยม นับว่าเป็นที่เที่ยวไต้หวันใกล้ๆที่เหมาะสมแก่การมาพักอีกที่หนึ่งเลยล่ะจ้ะ

2. อุทยานแห่งชาติหยางหมิงระเบียง (Yangmingshan National Park)

ต่อมาเป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวธรรมชาติ ไต้หวัน ที่เป็นที่รู้จักไม่แพ้กัน ซึ่งก็คือ อุทยานแห่งชาติหยางหมิงเฉลียง (Yangmingshan National Park) อุทยานแห่งชาติใกล้ไทเป ที่อยู่ห่างจากเมืองไปด้านเหนือราว 20 กิโลแค่นั้น ผู้ใดกันแน่ท่องเที่ยวอยู่ในเมืองกระทั่งเบื่อก็สามารถออกไปดูธรรมชาติตรงนี้ได้ง่ายอย่างยิ่งๆจ้ะ

ลักษณะเด่นของ หยางหมิงระเบียง ก็คือความเป็นชายป่าแบบอบอุ่นที่ทำให้มีความมากมายหลากหลายทางธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยพืชพันธุ์ไม้นานาประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกไม้ต่างๆที่สับเปลี่ยนเวียนกันบานตลอดทั้งปี อีกทั้งซากุระ ดอกกุหลาบพันปีสีขาว และก็ค้างลล่าลิลลี่ เหมาะกับการนำครอบครัว พาพ่อกับแม่มาพักรวมทั้งเพลินกับกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นแคมป์ปิ้ง ไต่เขา ปิกนิกที่โล่งแจ้ง แช่น้ำพุร้อน หรือเดินเที่ยว รวมทั้งขี่จักรยานดูธรรมชาติ การันตีว่าจะได้เต็มที่กับทิวทัศน์สีเขียวแบบสุดๆ

3. อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (Alishan)

มาถึง ที่เที่ยวธรรมชาติ ไต้หวัน ยอดฮิต ที่โด่งดังดังที่สุด อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (Alishan)นั่นเองจ้ะ ตรงนี้ตั้งอยู่ในเมืองเจียอี้ ทางทิศตะวันตกเฉใต้ของไต้หวัน เด่นด้วยความงามของธรรมชาติที่ว่ากันว่าใครกันแน่มา ท่องเที่ยวไต้หวัน แล้วมิได้มา อาลีซาน นับว่าพลาดมากมายๆบรรยากาศในอาลีซานเป็นสรวงสวรรค์ของนักเดินทางสายธรรมชาติเลยก็ว่าได้จ้ะ ตรงนี้อยู่สูงขึ้นยิ่งกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร ทำให้อากาศเย็นสบายทั้งปี ในฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระบานอยู่ในหลายๆพื้นที่ ส่วนตอนหน้าหนาวก็จะได้พบกับป่าดงสีเขียวชอุ่มกับหมอกบางๆเป็นทิวทัศน์ที่ฟินสุดๆสามารถเดินเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลินเจริญใจและไม่มีอ่อนแรงเลย

สำหรับเพื่อการขึ้นเขายอดดอยอาลีซาน นักเดินทางจะได้นั่งรถไฟโบราณดูทิวทัศน์งามๆบรรยากาศดีเยี่ยมๆทั้งยังบนยอดดอยอาลีซานยังเป็นจุดดูตะวันขึ้นที่โด่งดังที่สุดในไต้หวันอีกด้วย เช้าใจกันว่าถ้าหากได้มาดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่เขาอาลีซานจะนับว่าเป็นมงคลกับชีวิต แล้วก็ได้รับพลังลมหายใจจากหมอกบนยอดดอยในรุ่งเช้าที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ ได้รับธรรมชาติบรรเทาที่จริงจริง คนไหนพาคุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่มาท่องเที่ยว อย่าลืมพามาดูดซึมบรรยากาศตรงนี้กันนะคะ

4. เมืองไถต้อง (Taichung)

คนใดเป็นสายธรรมชาติผสมกับสายช้อปปิ้งหน่อยๆจำต้องไม่พลาด เมืองไถต้อง (Taichung) เมืองใหญ่ชั้น 3 ของไต้หวัน ถิ่นเกิดของ ระเบียงมมุก รวมทั้ง ชาบู Hot Pot ที่นี้เลยแรง Taichung ไต้หวัน หรือ ไถต้อง เป็นเมืองใหญ่สิ่งแวดล้อมไปด้วย ที่เที่ยวธรรมชาติ ไต้หวัน ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Gaomei Wetlands จุดดูดวงตะวันขอบป่าชายเลนที่สวยสดงดงาม, Maple Garden สวนงามแกนกลางเมืองที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืชนานาจำพวก, หรือ Moncoeur สวนสุดโรแมนติกที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้งามๆ

ผู้ใดท่องเที่ยวไทเปเบื่อแล้ว ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศไป ท่องเที่ยวไต้หวัน แบบชิลล์ๆชี้แนะให้ไปเมืองไถต้องเลยจ้ะ เดินทางไม่ไกลจากไทเป ได้ทั้งยังทิวทัศน์ธรรมชาติและก็ชิมรสอาหารอร่อยๆท่องเที่ยวได้ครบในเมืองเดียวเลยจ้ะ

การเดินทาง: จาก Taipei Main Station นั่งรถไฟ HSR มาลงสถานี HSR Taichung โดยประมาณ 1 ชั่วโมง

5. ทะเลสาบสุริยันจันทร์ (Sun Moon Lake)

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวธรรมชาติ ไต้หวัน ยอดนิยมที่ผู้ใดกันแน่ไป ท่องเที่ยวไต้หวัน ต้องไม่พลาดไปเช็คอินตรงนี้อย่างแน่แท้มันก็คือ Sun Moon Lake หรือพวกเรารู้จักกันในชื่อไทยว่า ทะเลสาบสุริยันเดือน ไต้หวัน นั่นเอง

ทะเลสาบสุริยันเดือน ตั้งอยู่ในจังหวัดดกนโถว รอบๆภาคกึ่งกลางของไต้หวัน เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีทัศนียภาพเบื้องหลังเป็นเทือกเขางาม ซึ่งไฮไลท์ของการท่องเที่ยวตรงนี้ก็คือ การหลอกลวงงเรือ ออกไปดูทิวทัศน์ทัศนียภาพในทะเลสาบ และก็แวะท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆที่อยู่บริเวณรวมทั้งถ้าหากผู้ใดพอเพียงมีเวลาก็สามารถเดินเที่ยว ขี่จักรยาน นั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นไปดูทิวทัศน์จากมุมสูงได้เช่นเดียวกันแรง

พักความเคร่งเครียดจากงาน ขอใช้วันลาสัก 2-3 วัน ออกท่องเที่ยวไต้หวัน อินกับธรรมชาติบรรเทากันเลยดีกว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่ท่องเที่ยวง่าย แถมยังคงใช้จ่ายไม่แพง ยิ่งคนใดกันพาคุณพ่อและก็คุณแม่ไปด้วยเสนอแนะว่าซื้อ ทัวร์ไต้หวัน ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะค่ะ สบาย ไม่ต้องท่องเที่ยวเอง ที่สำคัญเป็นควบคุมรายจ่ายได้ง่ายได้ท่องเที่ยวพักเต็มที่กับธรรมชาติแบบไร้กังวล ยืนยันทริปนี้เพิ่มเติมพลังบวกให้ตนเองได้อีกเยอะแยะเลยค่า

ที่มา : ทัวร์ไต้หวัน

เทคนิควิธีขายบ้านให้ได้โดยเร็ว

หากคุณเป็นคนที่ต้องการ “ขายบ้าน” หรือกำลังทำการขายบ้านของคุณเองอยู่ แต่ทว่า มันขายได้ยากเหลือเกิน และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เราอยากบอกว่า เรามีคำแนะนำดีๆ เพื่อช่วยให้คุณสามารถขายบ้านได้เร็วขึ้นมาฝากกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่า วิธีการเหล่านี้จะสามารถช่วยคุณได้อย่างแน่นอน นั้นก็เพราะว่า วิธีการที่เราเอามาแนะนำนั้น เป็นวิธีการที่เหล่ามืออาชีพต่างก็นำมาใช้กัน เพราะฉะนั้น เราเชื่อเลยว่า มันจะต้องช่วยคุณให้สามารถขายบ้านได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า

ปรับปรุงบ้านก่อนที่ขายบ้าน

หนึ่งในเทคนิคที่คนขายบ้านเป็นอาชีพมักทำกันก็คือ การปรับปรุงบ้านให้อยู่ในสภาพที่พร้อมอยู่หรือในสภาพที่ดูใหม่ บางคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องทำแบนนั้น คำตอบคือ คนที่ซื้อบ้านทั้งหลายนั้น ส่วนใหญ่แล้ว ต้องการซื้อบ้านเพื่อที่จะให้เป็นที่อยู่อาศัย หรือง่ายๆ เลยก็คือ ซื้อแล้วก็ต้องการอยู่เลย ไม่ใช่ต้องมาปรับปรุงหรือทำอะไรอีก เพราะฉะนั้น เวลาที่ซื้อบ้านก็ต้องการบ้านที่พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ดังนั้นแล้ว หากเป็นไปได้ คุณควรทำการปรับปรุงบ้านให้พร้อมอยู่ก่อนที่จะทำการขาย เพราะมันจะสามารถช่วยให้คุณขายบ้านได้เร็วขึ้นแน่ๆ

ในการปรับปรุงบ้าน เงินคือสิ่งที่คุณต้องใช้ในการปรับปรุง ซึ่งคุณอาจจะกังวลว่า ทำไมต้องเสียเงินอีก ซึ่งเราอยากบอกว่า อย่ากังวลไปเลย เพราะคุณสามารถนำไปรวมกับราคาขายบ้านได้ด้วย แค่คุณอาจจะต้องเสียไปก่อนและบอกเลยว่า การปรับปรุงบ้านก่อนขายมันจะช่วยเพิ่มราคาบ้านให้คุณได้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว มันดีกว่าอย่างแน่นอน

ราคาขายบ้านต้องเหมาะสม

ปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อโดยธรรมชาติของมนุษย์ก็คือ ราคา บ้านก็เช่นเดียวกัน ยิ่งเป็นบ้านด้วยแล้ว ราคาเป็นส่วนในการตัดสินซื้อเป็นอย่างมากเลยทีเดียว นั้นก็เพราะว่า บ้านนั้นมีราคาที่ไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแล้วมันจึงเป็นตัวแปรหรือปัจจัยสำคัญในการตัดสินซื้อเป็นที่สุด เพราะฉะนั้น การตั้งราคาขายบ้านจึงควรตั้งราคาให้มีความเหมาะสม

การตั้งราคาขายบ้านให้แพงทำได้หรือไม่ คำตอบก็คือได้เช่นเดียวกัน แต่ทว่า มันก็ต้องทำให้ด้วยว่า มันคุ้มค่าต่อการซื้อหรือไม่ เช่น บ้านที่อยู่ติดถนนสามารถใช้ค้าขายได้ แบบนี้ก็อาจจะตั้งราคาเพียงเสียหน่อยได้ เพราะบ้านนั้นสามารถใช้ทำธุรกิจหรือค้าขายได้ ย่อมเป็นประโยชน์ของผู้ซื้ออยู่แล้ว

การตั้งราคาขายบ้านให้ถูก จริงๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วเราไม่แนะนำเท่าไหร่ อย่าลืมว่า บ้านและที่ดินมีราคาขึ้นอยู่เสมอ หากเราจะซื้อคืนในอนาคต ราคาก็ไม่ใช่เหมือนตอนที่เราขายอย่างแน่นอน ดังนั้น การตั้งราคาขายที่ถูกเกินไป จะทำให้เราเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับในเรื่องราคาที่มีการขึ้นอยู่เสมอ

จากที่เราแนะนำมานั้นบอกได้เลยว่า มันจะสามารถช่วยให้คุณ ขายบ้าน ได้ง่ายขึ้นแน่ๆ และถ้าวันนี้คุณยังขายไม่ได้ รีบทำตามที่เราแนะนำเลย เพราะมันจะช่วยคุณให้ขายบ้านได้เร็วขึ้นแน่ๆ

อยาก ดูบอลสด ก็ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม

หากคุณต้องการที่จะ ดูบอลสด แล้วละก็ บอกได้เลยว่า อย่างหนึ่งที่คุณจะต้องไม่ลืมเลยก็คือ เรื่องของร่างกาย นั้นก็เพราะว่า การดูบอลสดนั้น จะต้องดูในเวลาที่เป็นเวลาพักผ่อน เพราะฉะนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ ร่างกายจะได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เฉพาะฉะนั้นแล้ว คุณจะต้องเตรียมพร้อมร่างกายให้ดีสำหรับการดูบอลด้วย ซึ่งเราก็ได้เอาคำแนะนำในเรื่องดังกล่าวมาฝากกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า

พักผ่อนเตรียมดูบอลสด

อย่างแรกเลยคือ คุณต้องเตรียมการพักผ่อนสำหรับดูบอลสดเตรียมไว้ก่อน กล่าวคือ หากคุณจะดูบอลแล้วละก็ คุณต้องพักผ่อนก่อน เพื่อที่จะดู อาทิ หากบอลถ่ายทอดสดเวลาดึก อย่างเช่น เที่ยงคืน คุณก็ควรจะเข้านอนแต่หัวค่ำ แล้วค่อยตื่นขึ้นมาดู ไม่ว่า รอเวลาที่จะดู เพราะมันจะทำให้ร่างกายของคุณต้องฝืน ซึ่งขัดกับธรรมชาติของร่างกายที่ต้องการพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแล้ว หากคืนไหนที่คุณจะดูบอลแล้วละก็ อย่าลืมพักผ่อนเตรียมเอาไว้ให้ดี

ทานอาหารที่มีประโยชน์

หากคุณต้องการดูบอลดึกๆ แล้วละก็ อย่างที่บอก ต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วย แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ยังไงร่างกายก็ได้รับผลกระทบอยู่ดี เพราะฉะนั้นแล้ว คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เพื่อที่ร่างกายของคุณ จะได้รับการซ่อมแซม ซึ่งบอกเลยว่า เรื่องนี้ก็สำคัญไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ลองนึกดูว่า เมื่อคุณดูบอลสดบ่อยๆ เป็นประจำ ร่างกายต้องการได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะต้องรู้จักที่จะเสริมสร้างส่วนที่เสียไปของร่างกายด้วย

จากที่กล่าวว่า คุณคงจะได้รู้แล้วว่า หากต้องการ “ดูบอลสด” คุณควรเตรียมความพร้อมกับรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งบอกเลยว่า หากคุณได้ทำตามที่แนะนำไปแล้วละก็ ร่างกายจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน